"คนมีเหตุมีผลปรับตัวเองให้เขากับโลก"ในขณะที่"คนหัวรั้นดึงดันจะพยายามปรับโลกให้เข้ากับตัวเขา"
"คนมีเหตุมีผลปรับตัวเองให้เขากับโลก"ในขณะที่"คนหัวรั้นดึงดันจะพยายามปรับโลกให้เข้ากับตัวเขา"
คมคำชีวิต
การแบ่งเวลาที่ดีที่สุดคือการแบ่งเวลาให้กับคนอื่น
คลังบทความ
หมวดงานเขียน
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
การสู้รบเป็นเครื่องมือสำหรับการเมือง
เป้าหมายทางการเมือง (Political Object) คือ
ต้นเหตุที่จูงใจในการทำสงครามและเป็นกรอบในการกำหนดระดับความเข้มข้นของสงคราม
สงครามที่ปาตานีมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 5,000 คนมีผู้บาดเจ็บกว่าหมื่นคนและมีทรัพย์สินมากมายที่เสียหายถูกทำลาย
ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำของฝ่ายใด
ความสูญเสียเหล่านี้สะท้อนถึงความเข้มข้นของสงคราม
การที่กลุ่มขบวนการได้ใช้การสู้รบด้วยอาวุธเป็นเครื่องมือในการต่อสู้
เนื่องจากเป้าหมายทางการเมืองหรือเหตุจูงใจในการทำสงครามนั้นคือ เอกราช
หากการต่อสู้มีเป้าหมายเพื่อปกครองตนเองหรือเขตปกครองพิเศษ
ความสูญเสียคงไม่มากขนาดนี้หรืออาจจะไม่มีความสูญเสียเลย
ฉะนั้นหากการทำสงครามสู้รบกับรัฐไทยของกลุ่มขบวนการมีเป้าหมายหรือเปลี่ยนเป้าหมายเพื่อเขตปกครองพิเศษหรือเขตปกครองตนเอง
ย่อมเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าและขาดทุนอย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อรัฐไทย
กองกำลังติดอาวุธของขบวนการและประชาชนทั่วไป
เพราะการต่อสู้ที่ไม่ใช่เพื่อแบ่งแยกดินแดนสามารถกระทำได้อยู่แล้วตามกระบวนการประชาธิปไตยและตามกฎหมายโดยมิต้องใช้ความรุนแรง
การทำสงครามที่ปาตานีเป็นการสื่อสารให้สังคมรับรู้ทำนองว่า
ฉันต้องการเอกราช รัฐไทยคือข้าศึกที่มารุกรานรัฐปาตานี เหตุผลที่มีการเลือกใช้ความรุนแรงในการต่อสู้เนื่องจากการต่อสู้แนวทางอื่นไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐไทยและประชาคมโลก
และการต่อสู้แนวทางอื่นมีความผิดเช่นเดียวกับการต่อสู้ด้วยอาวุธ
วันนี้แม้รัฐไทยจะพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อลดเงื่อนไขในการทำสงคราม แต่กระนั้นเงื่อนไขทางประวัติศาสตร์ที่รัฐปาตานีเคยเสียเอกราชให้แก่รัฐไทย
จึงมีปัญหาว่ารัฐไทยจะลบเงื่อนไขดังกล่าวได้อย่างไร
คงเป็นเงื่อนไขที่ไม่อาจลบหรือขจัดให้สิ้นซากได้และเป็นสาเหตุหลักของการทำสงครามที่ปาตานีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกพิสดารที่ อุดมการณ์เรียกร้องความเป็นธรรมจะมีในความคิดความรู้สึกของคนปาตานีทุกคนไม่มากก็น้อย
ตราบใดที่รัฐปาตานียังไม่ได้รับเอกราชจากรัฐไทยอุดมการณ์เช่นนี้ก็จะยังคงมีสืบต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน
แต่วิธีการต่อสู้ของแต่ละคนแต่ละกลุ่มอาจจะแตกต่างกันออกไปตามความเชื่อความรู้ความสามารถของตน
ที่ผ่านมาเราคงเคยได้ยินข่าวสารหรือการให้สัมภาษณ์จากฝ่ายต่างๆที่เรียกร้องให้กลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนยุติการใช้ความรุนแรง
เมื่อการต่อสู้ที่ปาตานีจะต้องดำเนินต่อไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแต่ความรุนแรงและความสูญเสียเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น
จึงมีคำถามไปยังฝ่ายที่เรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงว่า
หากเราต้องการให้ยุติการใช้ความรุนแรงในการต่อสู้ที่ปาตานีเราสามารถยอมรับการต่อสู้เพื่อการปลดปล่อยรัฐปาตานี
โดยสันติวิธีได้มากน้อยเพียงใด
หากมีการยุติการใช้ความรุนแรงจริงแต่เปลี่ยนมาใช้วิธีการพูด ทำป้าย จัดเวทีอภิปราย
ทำหนังสือเอกสาร แสดงความเห็นในโลกออนไลน์
ตั้งกลุ่มตั้งพรรคการเมืองหรืออื่นๆในการต่อสู้ว่าเขาต้องการเอกราช
หรือเขตปกครองพิเศษหรือเขตปกครองตนเองหรืออย่างอื่นๆนอกจากนี้
เป็นสิ่งที่สังคมรับได้หรือไม่
เสรีภาพในการแสดงออกในภาวะสงครามที่มีอุดมการณ์เพื่อปลดปล่อยรัฐปาตานีจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผู้ที่คิดต่างจากรัฐสามารถสื่อสารสิ่งที่เขาต้องการได้โดยที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรง
แต่ด้วยข้อกฎหมายทำให้การแสดงความคิดเห็นมีข้อจำกัดมากจึงทำให้มีการเลือกใช้ความรุนแรงในการต่อสู้เนื่องจากสามารถสื่อสารกับสังคมโดยที่มิต้องเปิดเผยตัวตนและไหวต่อการรับรู้ของสังคม เราเรียกร้องให้กลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนยุติการใช้ความรุนแรงแต่ขณะเดียวกันหากมีคนแสดงความเห็นหรือชู้ป้ายว่าเขาต้องการเอกราชหรือต้องการลงประชามติ
เราก็รับไม่ได้ แบบนี้เราจะให้เขายุติการใช้ความรุนแรงได้อย่างไร
วันนี้รัฐไทยต้องยอมรับว่ารัฐไม่สามารถขจัดอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนหรือการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของคนปาตานีได้
แต่รัฐสามารถสร้างทางเลือกในการต่อสู้ให้กับคนปาตานีโดยที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรง
ในบริบทของสงครามเช่นนี้รัฐจะต้องสร้างกระบวนการทางกฎหมายที่คุ้มครองผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ
ให้เขาสามารถต่อสู้ด้วยเหตุและผล หากมีบุคคลใดไม่เห็นด้วยกับอุดมการณ์ดังกล่าว
เขาก็สามารถต่อสู้ถกเถียงแลกเปลี่ยนอภิปรายแสดงออกในสิ่งที่ตนต้องการได้ด้วยเหตุและผลเช่นเดียวกัน
การให้โอกาสแก่ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ
ไม่ว่าเขาจะมีมุมมองในแก่ปัญหาอย่างไร เขาจะต้องการการปกครองตน (Autonomy) ต้องการเอกราช(Independence)ต้องการเขตปกครองพิเศษหรือหรือต้องการอะไรก็แล้วแต่
และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยสามารถต่อสู้กันด้วยเหตุและผล
เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับข้อเสนอขอฝ่ายต้น
จะเป็นการเปิดโอกาสให้ให้ประชาชนปาตานีต่อสู้ด้วยสันติวิธีลดการการสูญเสียจากการใช้ความรุนแรง
อาจมีคำถามว่าการเปิดโอกาสเช่นนี้จะเป็นการสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนและเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายหรือไม่
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 1 บัญญัติว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว
จะแบ่งแยกมิได้”และมาตรา 45 วรรค 1-2 วางหลักว่า“บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น” “การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ” จากบทกฎหมายดังกล่าวจะเห็นว่า
การแสดงความคิดเห็นเพื่อแบ่งแยกดินแดนเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและเป็นภัยอยู่บ้างต่อความมั่นคงของประเทศ
แต่ในบริบทของสงครามอันมีอุดมการณ์เพื่อปลดปล่อยรัฐปาตานีนั้น
หากรัฐไทยไม่สร้างทางเลือกและยอมรับการต่อสู้ด้วยหนทางสันติวิธี
การเรียกร้องให้กลุ่มขบวนการยุติการใช้ความรุนแรงจึงแทบจะไม่มีความหมาย
“รัฐบาลมาถูกทางแล้ว” นี้คือวาทะกรรมที่มาจากรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย
แต่จนแล้วจนรอดไม่มีรัฐบาลใดสามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะไม่มีใครทราบว่าแท้ที่จริงแล้วคนปาตานีต้องการอะไร
เราอาจเคยเห็นโพลส์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนปาตานี
ที่จัดทำขึ้นจากภาคประชาสังคมหรือองค์กรต่างๆทั้งจากเอกชนและรัฐบาล
ว่าประชาชนปาตานีต้องการอะไร? ไม่ว่าคำตอบจะออกมาอย่างไร
การตั้งคำถามในลักษณะนี้และคำตอบที่ได้จากประชาชนแทบจะไม่มีความหมาย
เนื่องจากผู้ให้คำตอบอยู่ในภาวะที่ถูกบีบด้วยกฎหมายที่ไม่สามารถเห็นต่างจากรัฐได้และต้องตอบคำถามแสดงความต้องการเท่าที่ไม่ผิดกฎหมายเท่านั้น
หากรัฐไทยไม่ทราบว่าประชาชนปาตานีต้องการเอกราชหรือเขตปกครองพิเศษหรือต้องการอะไรก็แล้วแต่
รัฐไทยจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
รัฐไทยจะมาถูกทางได้ก็ต่อเมื่อรัฐไทยแก้ไขปัญหาสอดคล้องกับความต้องการของคนปาตานี
ดังนั้น หากรัฐไทยต้องการปัญหาชายแดนใต้
เบื้องต้นรัฐต้องทราบให้แน่ชัดว่า คนปาตานีต้องการอะไร
ต้องการเอกราชก็คือต้องการเอกราช ต้องการเขตปกครองพิเศษก็คือเขตปกครองพิเศษ
ต้องการอยู่ภายใต้รัฐไทยก็คืออยู่ภายใต้รัฐไทย จึงจะสามารถจัดการกับปัญหาได้ถูกทาง
รัฐไทยจึงต้องสร้างกระบวนการทางกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ
และที่สำคัญในภาวะที่ชายแดนใต้เป็นสงครามที่มีอุดมการณ์เพื่อปลดปล่อยรัฐปาตานีขอเสนอดังกล่าวนี้
จะทำให้สงครามที่ต่อสู้ด้วยอาวุธเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ด้วยสันติวิธีซึ่งจะสร้างทางเลือกให้คนปาตานีต่อสู้โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรงลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์และกองกำลังติดอาวุธของทั้งสองฝ่าย แม้จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศอยู่บ้าง แต่คนปาตานีมีความรู้ มีตรรกะ
มีเหตุผลและมีความสามารถพอในการตัดสินใจ
ว่าเขาควรอยู่ภายใต้รัฐไทยต่อไปหรือควรแบ่งแยกดินแดนหรือควรจะแสดงเจตจำนงของตนเองอย่างไร
0 ความคิดเห็น to "เสรีภาพในการแสดงออกในภาวะสงครามที่มีอุดมการณ์เพื่อปลดปล่อยรัฐปาตานี"
Translate
-
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมการเมืองที่มีความสามารถในการตัดสินใจกระทำการหรือเลือกสิ่งใด โดยใช้ความคิดเหตุผลของตัวเองเพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดหรือมี...
-
แต่เดิมประเทศเซอร์เบียเป็นเพียงรัฐหนึ่งของ ยูโกสลาเวีย เนื่องจากยูโกสลาเวียเดิมประกอบด้วย 6 สาธารณรัฐ กล่าวคือ สาธารณรัฐสโลวีเนีย โครเอเ...
-
เมื่อวันวาน พ . ร . ก . เขมือบร่างของพ่อ จากข้ออ้างอันเลื่อนลอยที่บิดเบือน เพื่อนๆมองหนูน้อยแปรผันเป็นคนแปลก ความเงียบขรึมและเ...
-
ข้าปัญญาชน หรือฆ่าปัญญาชน ข้ามีการศึกษาแต่ไม่มีความรู้ ข้าจำมากกว่าเข้าใจ ข้าพูดมากกว่าทำ ข้าไม่เคยตั้งคำถาม ไม่เคยส...
-
การสู้รบเป็นเครื่องมือสำหรับการเมือง เป้าหมายทางการเมือง ( Political Object) คือ ต้นเหตุที่จูงใจในการทำสงครามและเป็นกรอบในการกำหนดระดับคว...
-
เป็นที่ยอมรับทางสังคมศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นรัฐศาสตร์หรือนิติศาสตร์ว่าการจะเป็นรัฐจะต้องมีองค์ประกอบ 4 ประการ กล่าวคือ 1.ดินแดน (Territory) 2....
-
ดอกไม้สีชมพูแสนบอบบางในสวนสวรรค์ สายลมพัดไหวผ่านพุ้มต้นไม้ ดอกไม้พรูพราวโปรยแพร่เกลื่อนพื้น กลิ่นหอมโชยลอยล่องกระจายในสายลม ...
-
ลมเหนือพัดผ่านแผ่วๆ ดอกหญ้าเหลืองอร่ามใต้ยอดธงสูง ม่านเมฆสีเทาปกคุลมจักรวาล สีแสดสลั่วๆที่เส้นขอบฟ้า ใกล้ดวงอาทิตย์จะตกดิน คล้ายสมรู้กับการจ...
-
บรรจงต้มน้ำอันเยือกเย็น หยิบยกแก้วสุดโปรดปราน เทกาแฟพร้อมหัวใจ ลงในขวดแก้วอันว่างเปล่า คนให้เข้ากันประดุจร่างเดียวกัน ...
-
ไออุ่นสันติภาพลอยล่องผ่านแรงลม สารอินโดรฟินหลั่งไหลเคลิ้มฝัน สันติภาพมีอยู่ทุกที่ทั่วสารทิศ การปฏิวัติของมนุษย์ต่างดาว ทำให้โลกใบนี้แปรเ...
แสดงความคิดเห็น